บทความที่ได้รับความนิยม

วันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

แก้ปัญหาดินเสีย,เชื้อราทางดิน,ดินแข็งเป็นดาน

         ปัจจุบันพื้นดินทางการเกษตรของไทยเรา มีปัญหามากแทบจะทุกที่เลยก็ว่าได้  ซึ่งโดยมากก็เกิดจากการที่เกษตรกรใช้พื้นที่ในการเพาะปลูกมาเป็นระยะเวลานาน และไม่ได้มีการดูแลดินกันอย่างจริงจัง ปัญหาที่พบมากในเรื่องของปัญหาทางดิน เช่น ดินแข็ง ดินเป็นดาน หน้าดินแข็ง แห้ง เชื้อราทางดิน (ดินมีลักษณะเป็นสีขาวๆป่นอยู่ที่เนื้อดิน พืชที่ปลูกจะไม่เจริญเติบโต รากเริ่มเน่า ) เป็นต้น ปัญหาต่างๆเหล่านี้แก้ไขได้ถ้ามีการพักดินในการเพาะปลูกบ้าง อย่างเช่น การปลูกข้าว เกษตรกรจะปลูกต่อเนื่องกันโดยไม่พักนาเลย เช่น 1 ปีปลูกข้าว 3 ครั้ง หรือ 2 ปีปลูกข้าว 5 ครั้ง ซึ่งเกี่ยวแล้วก็เผาตอซัง แล้วเตรียมที่ปลูกข้าวต่อเลย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วควรมีการปล่อยน้ำเข้าประมาณ 1 เดือน เพื่อช่วยในการย่อยสลายตอซังบ้าง ก็จะได้เพิ่มปุ๋ยในดินได้ด้วย
        แต่ในฐานะของเกษตรกรเองก็อยากจะทำให้ได้ผลผลิตมากที่สุดเท่าที่จะมีโอกาส จึงส่งผลให้ดินเสีย และ อีกปัญหานึงที่ทำให้ดินเสียก็คือ การใช้ปุ๋ยเคมีมากเป็นเวลานานๆ ทำให้ขาดจุลทรีย์ในดิน ส่งผลให้ผลผลิตได้น้อยลงเรี่อยๆ
        วิธีแก้ปัญหาดินเสีย เสื่อม ดินแข็ง ดินป็นดาน และเชื้อราทางดินได้มีหลากหลายวิธี ซึ่งในปัจจุบันนี้มีนวตกรรมใหม่เกิดขึ้น ในรูปแบบน้ำที่มีประสิทธิภาพมาก  คือ

1. การบำรุงดินแบบธรรมชาติ เป็นการหยุดพักหน้าดินทำการเกษตร เพื่อให้หน้าดินได้ปรับสภาพจากอินทรีย์ธาตุ การทับถมอินทรีย์ธาตุหน้าดินจากซากพืช ที่เน่าเปื่อยตามฤดูการ เช่นซากวัชพืชต่าง ๆ หรือการปลูกพืชหมุนเวียนเพื่อเฉลี่ยธาตุอาหารตกค้างที่หน้าดินโดยใช้วิธีการปลูกพืชหมุนเวียนก่อนฤดูการเพาะปลูก การปลูกพืชทดแทนที่มีระยะการเจริญเติบโตถึงเก็บผลผลิตไม่เกิน 3 เดือน ได้แก่การปลูกพืชถั่วกินเมล็ด เช่นถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วลิสง หรือปลูกพืชตระกูลถั่วบำรุงดิน เช่น ถั่วมะแฮะ ถั่วพร้า หรือปอเทือง เมื่อพืชออกดอกแล้วทำการไถกลบเป็นการเติมธาตุไนโตเจน ในดินได้ดี
2. การบำรุงดินโดยการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ทดแทนปุ๋ยเคมี ในการเพาะปลูก ซึ่งปุ๋ยอินทรีย์จะมีธาตุอาหารบำรุงพืชที่น้อยกว่าปุ๋ยเคมี แต่จะช่วยในการปรับโครงสร้างของดินให้ร่วนซุย ช่วยในการอุ้มน้ำ และธาตุอาหารที่เติมลงดิน พืชสามารถดูดซับธาตุอาหารได้ดีในดิน และยังทำให้อากาศถ่ายเทในมวลดินได้เป็นอย่างดี อาจต้องใช้เวลาปรับสภาพดิน 3-5 ปี

พด.1-2-3 ห้ามซื้อขาย

3.การใช้จุลินทรีย์หลากหลายชนิดเพื่อช่วยขยายพันธุ์จุลินทรีย์ในดินช่วยย่อยสลายอินทรีย์ธาตุในดินเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของดินให้ร่วนซุย ปรับสมดุลของสภาพแวดล้อมในดินทางการเกษตร จุลินทรีย์ทีย่อยมีมากมายหลายกลุ่มที่นิยมนำมาใช้ขยายพันธุ์เชื้อจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ ได้แก่ จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง อาทิ กลุ่มจุลินทรีย์ผลิตกรดแลคติค กลุ่มจุลินทรีย์ตรึงไนโตเจน กลุ่มจุลินทรีย์เอคทีโนมัยซีทส์ หรือ กลุ่มจุลินทรียยีสต์  ซึ่งจัดหาได้จากหน่วยงานผลิต กรมพัฒนาที่ดิน ได้แก่ พด.1 พด.2 และพด.3  หรือจากหน่วยงานของเอกชน ได้แก่หัวเชื้อจุลินทรีย์ประสิทธิภาพสูง (Effective Microorganisms) หรือหัวเชื้อน้ำ EM

แอ๊คติ้ง
4.การเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับธาตุอาหารของพืชจากดินโดยการเติมสารชีวภาพเพื่อช่วยเร่งประสิทธิภาพใส่วนรากของพืช ซึ่งได้ผลิตเป็นธาตุอาหารเสริม ฮอรโมน บำรุงพืช น้ำชีวภาพ สารอะตอมมิคนาโนชีวิภาพฮิวมิค สารปรับสภาพความเป็นกรด-ด่างของดิน  หรือสารเพิ่มประสิทธิภาพการย่อยสลายอินทรีย์ธาตุของจุลินทรีย์ เป็นต้น
สารชีวภาพนาโนฮิวมิคสูตรพิเศษ แอ๊คติ้ง  เป็นสารที่ช่วยเร่งรากของพืชเร่งระบบการแตกรากของพืช รากเดินดีสามารถดูดซับธาตุอาหารในดินได้ดี  ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยเคมีในดิน ปรับสภาพความตึงของน้ำในดิน ช่วยให้พืชทนทานต่อสารพิษยาฆ่าหญ้า ช่วยให้พืชไม่ชะงักงัน ฟื้นได้จากอาการทรุดโทรมได้อย่างรวดเร็ว แอ๊คติ้งสารนาโนสูตรพิเศษ ได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้กับพืชแตกกอโดยตรงทำให้พืชดูดซับธาตุอาหารจากปุ๋ยเกร็ด ปุ๋ยน้ำ เข้าสู่ต้นได้อย่างรวดเร็ว  หรือใช้ผสมกับยาฆ่าแมลงช่วยกระตุ้นเพิ่มฤทธิ์ยาทำให้การกำจัดแมลงศัตรูพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลักษณะพิเศษสาร แอ๊คติ้ง กระตุ้นการแตกกอ ย่อยสลายซังฟางข้าว ป้องกันโรครากเน่า โคนเน่า แก้ปัญหารากดำ ใช้กับข้าวป้องกันข้าวงัน ข้าวแดงจากจากยาคุมหญ้า เพิ่มน้ำหนักข้าว หรือแก้ปัญหาข้าวไม่กินปุ๋ย

ติดต่อสอบถาม รชดา สกุลธรรมารมณ์ โทร.089-1060641
 email:  rozy_aibiz@hotmail.com